Stay on this page and when the timer ends, click 'Continue' to proceed.

Continue in 17 seconds

สลด! ยายจุดไฟเผาตัวเองพร้อมหลานพิการตายอนาถ เครียดทวงหนี้ 6 หมื่นจากน้องสาวไม่ได้ เขียนจดหมายอาฆาตก่อนจบชีวิต

สลด! ยายจุดไฟเผาตัวเองพร้อมหลานพิการตายอนาถ เครียดทวงหนี้ 6 หมื่นจากน้องสาวไม่ได้ เขียนจดหมายอาฆาตก่อนจบชีวิต

Source: mgronline.com

ชุมพร - ย่าวัย 66 ปี จุดไฟเผาหลานสาวพิการ อายุ 14 ปี พร้อมตัวเองตายอนาถหน้าบ้านกลางดึก หลังทวงเงิน 6 หมื่นที่น้องสาวยืมไปไม่ได้ แถมท้าให้ฟ้องเอาเอง ตัดสินใจเขียนจดหมายอาฆาต ก่อนจบชีวิตพร้อมหลาน

เหตุการณ์สลดย่าวัย 66 ปี จุดไฟเผาหลานสาวอายุ 14 ปี ที่พิการกล้ามเนื้ออ่อนแรงและตัวเองตายพร้อมกันหน้าบ้าน หลังจากไปทวงเงินน้องสาวที่ยืมไป 60,000 ไม่ได้ แถมถูกท้าให้ไปฟ้องเอาเอง โดยเหตุสลดดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 67 พ.ต.ท.พนัส หมุนวงศ์ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.นาสัก ได้รับแจ้งเหตุมีคนจุดไฟเผาตัวเองเสียชีวิต 2 ศพ ในพื้นที่ ม.6 ต.นาสัก อ.สวี จ.ชุมพร จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมกำลังตำรวจชุดสืบสวน ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดชุมพร และหน่วยกู้ชีพกู้ภัยสายชลชุดเขาทะลุ อ.สวี

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียวไม่มีเลขที่ ซึ่งปลูกอยู่กลางสวนปาล์มน้ำมัน ห่างจากถนนสายเอเชีย 41 เข้าไปในถนนหมู่บ้านสายแก่งกระทั่ง-นาสัก กว่า 10 กม. บริเวณด้านข้างของตัวบ้านริมชายคา เจ้าหน้าที่พบผู้เสียชีวิต 2 ศพ ทราบชื่อภายหลัง คือ นางอุทัย ชนะ อายุ 66 ปี อยู่บ้านเลขที่ 247 หมู่ที่ 6 ต.นาสัก อ.สวี จ.ชุมพร นอนหงายอยู่ระหว่างเก้าอี้พับแบบปิกนิกกับโซฟาแบบพนักพิงปรับลงเป็นที่นอนได้ถูกไหม้หมดไม่เหลือสภาพ โดยบนโซฟาดังกล่าวเป็นศพของ ด.ญ.กนกนภา ชนะ อายุ 14 ปี สภาพนอนคว่ำหน้า ทั้ง 2 ศพอยู่ในสภาพถูกไฟเผาไหม้เกรียมดำเป็นตอตะโก

ใกล้กันเจ้าหน้าที่พบยาฆ่าแมลงแบบแกลลอน 5 ลิตร จำนวน 1 แกลลอน ภายในแกลลอนมีน้ำยาหลงเหลือเพียงเล็กน้อย และยังพบว่าขวดน้ำยาแล็กเกอร์สำหรับทาไม้ตกอยู่ใกล้ศพ 2 ขวด เป็นขวดเปล่า 1 ขวด และอีก 1 ขวดภายในขวดมีน้ำขุ่นขาว ทราบภายหลังคือยาฆ่าแมลงซึ่งผสมกับน้ำไว้เต็มขวด

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังพบกระดาษขนาดเอ 4 จำนวน 2 แผ่น ปลิวตกอยู่บนพื้นปูนบริเวณหน้าบ้าน โดยกระดาษทั้ง 2 แผ่น ได้เขียนข้อความขนาดใหญ่ไว้ว่า "ขอโทษ อสม.ทุกคนที่จบชีวิตด้วยทำ (ลาย) ร้ายตัวเอง หนีทุกสิ่งทุกอย่างจากน้อง" และกระดาษอีกแผ่น เขียนข้อความว่า "เรามาใช้เวรชาตินี้ (หนี้) กระนุ้ยมึงเอาเงินกูไป 60,000 บาท กูขอจองเวรมึงทุกๆ ชาติ" (กระนุ้ยเป็นภาษาคนใต้ที่เรียกน้องที่นี้หมายถึงน้องสาวของคนตาย) เจ้าหน้าที่จึงได้บันทึกและเก็บไว้เป็นหลักฐาน

สอบถาม น.ส.อ้อยทิพย์ ชนะ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 247 ม.6 ต.นาสัก อ.สวี จ.ชุมพร ทราบว่า นางอุทัย ผู้เสียชีวิต คือ แม่ตนเองและอีกศพนั้นเป็นหลานสาว ซึ่งเป็นผู้พิการด้วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงมาตั้งแต่เด็ก โดยหลานสาวนั้นเป็นลูกของพี่ชาย แต่แม่ได้พามาเลี้ยงหลังจากที่เกิด ซึ่งหลังจากที่พ่อเสียชีวิตลง แม่กับหลานก็อาศัยบ้านหลังดังกล่าวกันเพียง 2 คน ส่วนตนนั้นจะอยู่ก่อนถึงบ้านแม่เพียงเกือบ 100 เมตร และจะเวียนไปมาหาสู่อยู่เป็นประจำ โดยเฉพาะเวลาแม่จะไปไหนมาไหน ตนจะเป็นคนขับรถไปให้

น.ส.อ้อยทิพย์ เล่าต่อว่า โดยก่อนเกิดเหตุวันเดียวกัน ตนได้พาแม่ไปประชุมที่ศาลาหมู่บ้าน เนื่องจากแม่เป็น อสม.เมื่อส่งเสร็จตนก็กลับมาบ้าน จนกระทั่งเที่ยง ขณะตนกำลังจะไปรับกลับ ทราบว่า แม่ได้อาศัยรถจักรยานยนต์เพื่อนบ้านกลับมาแล้ว ตนไม่สนใจอะไรมากนัก จนกระทั่งตอนกลางคืน ตนเห็นบ้านแม่ มีเปลวและแสงไฟลุกโชนสว่าง พร้อมมีเสียงคล้ายระเบิดแต่ดังไม่มากนัก จึงวิ่งไปดูพบภาพไฟกำลังลุกไหม้แม่และหลานสาว จึงได้ร้องตะโกนให้คนช่วยแต่สายไปแล้ว แม่กับหลานได้ถูกไฟคลอกเสียชีวิต จึงได้โทร.แจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบ

สำหรับกระดาษที่แม่เขียนไว้นั้น คาดว่าแม่เครียดมากเพราะเงินที่น้องสาวแม่ยืมไปนานกว่า 2 ปีแล้วยังไม่ได้คืนมา แม่เคยทวงก็ทะเลาะกันืหนำซ้ำน้องสาวแม่ที่บ้านอยู่ห่างออกไปจากหน้าบ้านแม่ตนไม่มากนัก ยังเอาไม้และหลักมาฝังปิดกั้นทางไม่ให้แม่ใช้ทางเข้าบ้าน ซึ่งทางผู้ใหญ่บ้านได้มาเจรจาไกล่เกลี่ย จนต้องยอมเปิดให้ และตลอดเวลาที่ผ่านมาแม่จะทวงถามเงิน เพราะต้องใช้จ่ายกับการซื้อของใช้สำหรับหลานสาวที่พิการ น้องสาวเย้ยหากอยากได้ก็ไปฟ้องเอา คาดว่าแม่คงเครียดมาก จึงได้ตัดสินใจจุดไฟเผาตนเองและหลานสาวที่พิการให้ตายตามกันไปเพราะไม่อยากให้เป็นภาระใคร ซึ่งเรื่องนี้แม่เคยพูดและจะทำมาแล้ว จนที่สุดก็มาถึงจนได้