Stay on this page and when the timer ends, click 'Continue' to proceed.

Continue in 17 seconds

สุดน่ารัก "น้องขนุน" ลูกสิงโตของกลางที่ยึดจากสาวจีนใน จ.ภูเก็ต พบกับ "น้องขนม" สิงโตของกลางอีกตัว

สุดน่ารัก "น้องขนุน" ลูกสิงโตของกลางที่ยึดจากสาวจีนใน จ.ภูเก็ต พบกับ "น้องขนม" สิงโตของกลางอีกตัว

Source: mgronline.com

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เผยบรรยากาศสุดน่ารัก "น้องขนุน" ลูกสิงโตของกลางที่ตรวจยึดได้จากสาวจีนใน จ.ภูเก็ต ได้เจอ "น้องขนม" เพื่อนรุ่นเดียวกัน ขณะถูกส่งไปไว้ที่ศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก

จากกรณีมีการตรวจยึดลูกสิงโต เพศเมีย จำนวน 1 ตัว ชื่อ "ขนุน"อายุ ประมาณ 2-3 เดือน น้ำหนัก 7.3 กิโลกรัม หลังเจ้าหน้าที่ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตได้รับการร้องเรียนว่ามีการนำลูกสิงโตมาให้ถ่ายรูปกับนักท่องเที่ยวที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่งในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต หลังรับแจ้งทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบ พบว่า ลูกสิงโตตัวดังกล่าวเป็นของสาวจีนที่นำมาเลี้ยงไว้ในโรงแรม แต่ไม่มีใบอนุญาต ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจยึดไว้

ล่าสุด นายอนันต์ ศรีผุดผ่อง หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวากและศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก เปิดเผยว่า ทีมสัตวแพทย์ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 (นครศรีธรรมราช) ได้นำส่งลูกสิงโต เพศเมีย ซึ่งเป็นของกลางที่ตรวจยึดได้ในจังหวัดภูเก็ต ชื่อ "ขนุน" อายุประมาณ 2-3 เดือน น้ำหนัก 7.3 กิโลกรัม จากหญิงชาวจีนในจังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 14 ก.พ.67 ที่ผ่านมา เนื่องจากพบว่าสถานที่เลี้ยงไม่ตรงตามหลักเกณฑ์ และไม่เหมาะสมที่ออกใบอนุญาตให้เลี้ยงได้ เมื่อตรวจสอบไมโครชิปพบว่าลูกสิงโตตัวดังกล่าวไม่มีไมโครชิป ซึ่งไม่ตรงกับเอกสารหมายเลขไมโครชิปที่เจ้าของนำแสดงให้ตรวจสอบตอนแรกแต่อย่างใด ให้แก่ศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก จ.สุพรรณบุรี เพื่อดูแล

ขณะที่ สพ.ญ.สลิลธร ทองสงวน นายสัตวแพทย์ชำนาญการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 (นครศรีธรรมราช) กล่าวถึงการส่งลูกสิงโต ไปให้ ว่า เนื่องจากทางสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 ไม่มีความพร้อมของสถานที่ในการดูแลลูกสิงโตของกลาง จึงส่งมายังศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก (สวนสัตว์บึงฉวาก) จ.สุพรรณบุรี เนื่องจากมีความพร้อมในการสถานที่ และทีมดูแล นอกจากนี้ยังมี "น้องขนม" ซึ่งเป็นสิงโตของกลางที่มีวัยใกล้เคียงกันที่ทางเขตได้รับมาดูแลเมื่อวันที่ 14 ก.พ.67 อีกด้วย

ขณะที่ สพ.ญ.ณฐนน ปานเพ็ชร นายสัตวแพทย์ชำนาญการ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวาก และศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก กล่าวเพิ่มเติมว่า สัตวแพทย์ประเมินสุขภาพร่างกายของลูกสิงโตโดยทั่วไป พบว่า ปกติ ซึ่งจะต้องทำการประเมินสุขภาพอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยจะต้องทำการเจาะเก็บเลือดตรวจทางห้องปฏิบัติการต่อไป ทั้งนี้ ศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก ได้เตรียมเจ้าหน้าที่สำหรับเลี้ยงลูกสิงโตของกลางตัวดังกล่าวไว้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยลูกสิงโตจะต้องกินนมผงชนิด KMR ทุก 2-3 ชั่วโมง และเริ่มให้กินเนื้อวัวสับละเอียดเล็กน้อยทุกวัน

อย่างไรก็ตาม สำหรับลูกสิงโตน้องขนุน หลังจากเจอกับน้องขนม ครั้งแรก ต้องก็มองกันด้วยความสงสัย และตามดุกันตลอดเวลา ซึ่งเป็นบรรยากาศที่แสนจะน่ารักของน้องสิงโตทั้ง 2 ตัว