Stay on this page and when the timer ends, click 'Continue' to proceed.

Continue in 17 seconds

แม่รับไม่ได้! ผบ.หมวดลงโทษเกินกว่าเหตุ บุกทุบตีลูกถึงห้องพัก

แม่รับไม่ได้! ผบ.หมวดลงโทษเกินกว่าเหตุ บุกทุบตีลูกถึงห้องพัก

Source: mgronline.com

พัทลุง - แม่และญาติคาใจร้อยตำรวจเอกซ้อมลูกสิบตำรวจตรีปางตาย เชื่อใช้อารมณ์ลงโทษเกินเหตุ ผู้กำกับสั่งไม่ให้แจ้งความ ก่อนนำร่างที่บาดเจ็บกลับรักษาตัวบ้านเกิดที่พัทลุง

วันนี้ (6 มี.ค.) ที่ จ.พัทลุง แม่ของ ส.ต.ต.หัสดิน เขียวจีน ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปรามฐานปฏิบัติการท่าสาป สภ.เมือง จ.ยะลา คาใจลูกชายได้รับบาดเจ็บ โดยอ้างว่า ผบ.หมวดฐานปฏิบัติการท่าสาปลงโทษเกินกว่าเหตุ แค่ไม่ได้ลงบันทึกการเข้าเวร แต่กลับบุกเข้าไปทุบตี ส.ต.ต.หัสดิน ถึงห้องพัก ต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2567 เวลา 17.00 น.

หลังเกิดเหตุ ส.ต.ต.หัสดิน ได้โทร.บอกน้าสาวว่าถูกลงโทษได้รับบาดเจ็บ น้าสาวไม่เชื่อจึงได้วิดีโอคอล เห็นหลานเจ็บและเหนื่อย จึงบอกให้รีบไปหาหมอก่อนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล และขณะที่เข้ารับรักษาตัวในคืนเกิดเหตุ ส.ต.ต.หัสดิน ได้ส่งข้อความทางไลน์หา รอง ผกก.เมืองยะลา ระบายความเจ็บปวด โดยในไลน์ รอง ผกก.ได้สอบถามว่า ใครเป็นหัวหน้าฐานท่าสาป ใครสั่งลงโทษ ส.ต.ต.บอกว่า "หมวดริสกี้ แกทำโทษผมเอง ทำผมแบบนี้ผมไม่ไหวจริงๆ ครับ แค่กล่าวตักเตือน ผมยังดีกว่า ทำแบบนี้ผมจุกไปหมด ช้ำ ตีผมแรงใช้อารมณ์ แค่เรื่องเอกสาร แกว่าผมเถียง แค่เรื่องนี้ทำกับผมแบบนี้ กับคนที่เอาปืนหลวงไปจำนำ ผบ.หมวด เขายังไม่ทำอะไรเลย ผมเครียดมากครับ ไม่ทราบใช้ระบบไหนปกครองน้องๆ ในฐาน ผมอยากย้ายออกเต็มทีแล้ว ทำผมถึงขั้นนี้"

จากนั้นช่วงเช้าวันที่ 5 มีนาคม 2567 นางละออง เขียวจีน อายุ 51 ปี แม่ ส.ต.ต.ที่ถูกทำร้ายทราบข่าว จึงได้เดินทางจากจังหวัดพัทลุงไปเยี่ยมลูกชายพร้อมกับน้าสาวและยาย เมื่อเห็นลูกชายถึงกับเข่าทรุด เพราะถูกทำร้ายจนเจ็บไปทั้งตัว พร้อมทั้งไม่มีใครดูแล โดยแม่บอกว่า การลงโทษโดยทุบตีปางตายแบบนี้มันไม่ใช่การลงโทษปกติแล้ว แต่เป็นการลงโทษที่ใช้อารมณ์เกินเหตุ แม่รับไม่ได้ ผิดก็ลงโทษตามวินัยตามธรรมเนียมปฏิบัติ ไม่ใช่ใช้ความรุนแรง และลูกชายนอนรักษาตัวที่ รพ.ทั้งคืนไม่มีใครมาดูแล จนรู้ว่าแม่มา เพื่อนตำรวจได้มาขอว่าอย่าเอาเรื่อง ผบ.หมวดเลย แม่รับไม่ได้ และได้พาลูกชายเข้าแจ้งความ แต่พนักงานสอบสวนไม่รับ พร้อมทั้ง ผกก.บอกว่าเรื่องของตำรวจให้จัดการกันเอง แต่ลูกแม่เจ็บแบบนี้ไม่อาจรับได้ ก่อนที่จะนำตัวลูกชายที่ได้รับบาดเจ็บกลับมารักษาตัวต่อที่จังหวัดพัทลุงบ้านเกิด

"หลังจากนี้หากลูกกลับไปทำงานที่เดิมคงลำบาก เพราะหัวหน้าไม่ถูกกับลูกน้องอาจจะถูกกลั่นแกล้งได้"

ด้านน้าสาว นางสุดา ช่วยนุรักษ์ กล่าวว่าใจหายเมื่อเห็นหลานถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ ได้ไปแจ้งความ พนักงานสอบสวนบอกต้องให้คนเจ็บมาแจ้งเอง ก่อนนำหลานมาจาก รพ.เพื่อแจ้งความ แต่ผู้กำกับไม่ให้รับแจ้งความบอกเรื่องดังกล่าวขอคุยกันก่อน โดยจะให้ผู้การเข้ามาคุยในวันพรุ่งนี้ ตนรู้สึกไม่สบายใจเลยพาหลานกลับมารักษาตัวต่อที่จังหวัดพัทลุงบ้านเกิด ทั้งที่อาการยังบาดเจ็บหนักบอบช้ำข้างใน

ขณะที่ยายของ ส.ต.ต.หัสดิน กล่าวว่า นี่ถ้าหากหลานหายดีแล้วกลับไปทำงานที่นั่นอีกกลัวจะได้รับอันตราย ก็รู้กันอยู่ว่าที่นั่นมันมีอะไร อาจโดนยิงแล้วแจ้งว่าผู้ก่อเหตุเป็นผู้ที่ก่อความไม่สงบแล้วจะไปเอาผิดที่ใครได้ หวั่นเรื่องที่จะตามมากับหลาน หากไม่ได้ย้ายไปจากที่นั่นหลังจากนี้