Stay on this page and when the timer ends, click 'Continue' to proceed.

Continue in 17 seconds

กระแสทวงคืนชายหาดภูเก็ตระอุ โซเชียลเรียกร้องนายทุนเปิดทางลงหาด "แหลมกาใหญ่" ที่ถูกปิดมากว่า 10 ปี

กระแสทวงคืนชายหาดภูเก็ตระอุ โซเชียลเรียกร้องนายทุนเปิดทางลงหาด "แหลมกาใหญ่" ที่ถูกปิดมากว่า 10 ปี

Source: mgronline.com

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - กระแสทวงคืนชายหาดภูเก็ตระอุ โซเชียลและชาวบ้านในพื้นที่รวมพลังเรียกร้องนายทุนเปิดทางลงหาด ทั้งหาดยามู หาดแหลมหงา ไปต่อกันที่ "แหลมกาใหญ่" ในพื้นที่ ต.ราไวย์ ที่ถูกนายทุนชาวต่างชาติเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินทำรั้วปิดทางลงหาดมากว่า 10 ปี

กระแสทวงคืนชายหาดในภูเก็ตกำลังร้อนแรงอยู่ในขณะนี้ หลังเกิดเหตุฝรั่งเตะหมอ ที่บันไดริมชายหาดหาดยามู ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต จนนำไปสู่การทวงคืนชายหาดยามู และหาดอื่นๆ ตามมา เช่น หาดแหลมหงา ที่ชาวบ้านในพื้นที่ได้นัดไปรวมตัวกันเรียกร้องให้เจ้าของที่ดินเปิดรั้วกันปิดทางลงหาด เมื่อวานนี้ (7 มี.ค.) จนชาวบ้านทนไม่ไหว ช่วยกันทุบกุญแจรั้ว เปิดทางลงหาดแหลมหงา ลงไปพักผ่อน ไปเล่นน้ำทะเลกันเองไปแล้ว แม้ว่าเจ้าของที่ดินจะขอเวลาในการเปิดรั้วกั้นในอีก 15 วัน

กระแสการทวงคืนชายหาดยังได้ลามไปถึง "หาดแหลมกาใหญ่" ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต เป็นอีกหนึ่งชายหาดที่อยู่ในกระแสเรียกร้องของโซเชียลให้เจ้าของที่ดินเปิดทางลงหาด

"หาดแหลมกาใหญ่" ถือว่าเป็นอีกหนึ่งในหลายหาดที่อยู่ในความทรงจำของคนภูเก็ตในอดีตที่ผ่านมา ที่เคยใช้ชายหาดแห่งนี้เป็นสถานที่ในการพักผ่อนหย่อนใจ เล่นน้ำทะเล มาปิกนิกริมหาด แต่ปัจจุบันชาวภูเก็ตไม่สามารถเข้าไปถึงแหลมกาใหญ่โดยทางรถยนต์ได้อีกแล้ว ทำให้แหลมกาใหญ่เป็นเพียงความทรงจำของใครหลายๆ คน

เนื่องจากเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินในปัจจุบันนี้ได้ทำรั้วปิดกันทางที่จะลงไปแหลมกาใหญ่ เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว หลังจากซื้อที่ดินมาจากเจ้าของเดิม ซึ่งเป็นของคนในภูเก็ต ชาวบ้านหรือนักท่องเที่ยวไม่สามารถเข้าไปพักผ่อนที่แหลมกาใหญ่ทางรถยนต์ได้อีก หากต้องการเข้าไปจะต้องใช้วิธีเดินเท้าลัดเลาะตามชายหาด ตามโขดหินเข้ามา หรือไม่ก็เข้ามาทางเรือ

อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านรายหนึ่งที่อยู่ในพื้นที่ใกล้กับแหลมกาใหญ่ เล่าให้ฟังว่า ในอดีตนั้นการลงหาดแหลมกาใหญ่สามารถขับรถผ่านที่ดินแปลงนี้ไปจนถึงชายหาด ซึ่งเป็นสวนมะพร้าว ทางเจ้าของที่ดินได้ตัดทางเป็นถนนเล็กๆ เข้าไปประมาณ 200 เมตร จะถึงชายหาด เพื่อให้ลูกค้าของบังกะโลที่ชื่อว่า "แหลมกาบังกะโล" และร้านอาหารแหลมกา ซึ่งเจ้าของที่ดินได้เปิดให้บริการเมื่อนานมาแล้ว จึงสามารถขับรถผ่านที่ดินแปลงนี้เข้าไปได้ จึงไม่ได้เป็นที่สาธารณะหรือที่ดินจำยอมแต่อย่างใด และต่อมาทางเจ้าของที่ดินได้เก็บค่าเข้าและค่าจอดรถคันละ 20 บาท เพื่อนำเงินดังกล่าวไปดูแลสถานที่ให้สะดวก เนื่องจากมีประชาชนบางส่วนที่นำอาหารเข้ามารับประทานแล้วไม่เก็บขยะออกไป ทำให้เกิดปัญหาขยะเน่าเหม็นที่ชายหาด

เมื่อเจ้าของที่ดินเดิมได้ขายที่ดินแปลงนี้ให้นักลงทุนชาวต่างชาติที่ต้องการซื้อที่ดินเพื่อลงทุนโรงแรม ทำให้เจ้าของที่ดินคนปัจจุบันได้ทำรั้วปิดทางเข้าหาดมาจนถึงวันนี้ นับเป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว ที่ชาวบ้านไม่สามารถใช้ขับรถผ่านที่ดินแปลงนี้ไปสู่หาดแหลมกาใหญ่

ชาวบ้านรายดังกล่าวยังบอกอีกว่า เจ้าของที่ดินคนปัจจุบันซึ่งเป็นนักลงทุนชาวสิงคโปร์ ต้องการที่จะขายที่ดินแปลงนี้แล้ว เนื้อที่ทั้งหมด 150 ไร่เศษ เป็นที่ดินที่ตั้งอยู่ในทำเลที่สวยงามขนานไปกับหาดแหลมกาใหญ่ หลังจากได้ยกเลิกแผนลงทุนก่อสร้างโรงแรมหรู