Stay on this page and when the timer ends, click 'Continue' to proceed.

Continue in 17 seconds

ถอนวีซ่า-ขึ้นบัญชีดำ 2 ต่างชาตินิวซีแลนด์ทำร้ายแย่งปืน ตร.แล้ว พบคนก่อเหตุเป็นถึงนักมวย MBA

ถอนวีซ่า-ขึ้นบัญชีดำ 2 ต่างชาตินิวซีแลนด์ทำร้ายแย่งปืน ตร.แล้ว พบคนก่อเหตุเป็นถึงนักมวย MBA

Source: mgronline.com

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ถอนวีซ่า-ขึ้นบัญชีดำ 2 ต่างชาตินิวซีแลนด์ ทำร้าย แย่งปืน ตร. พร้อมแจ้ง 5 ข้อหาหนัก ตร.ค้านประกันตัว พบคนก่อเหตุเป็นนักมวย MMA ด้านผู้ว่าฯ ผู้การย้ำอยู่ภูเก็ตต้องทำตามกฎหมาย เตรียมแจ้งให้กงสุลนิวซีแลนด์

จากกรณีนักท่องเที่ยวชาวนิวซีแลนด์ก่อเหตุแย่งอาวุธปืนของเจ้าหน้าที่ จนกระสุนลั่น 1 นัด และทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.ฉลอง จ.ภูเก็ต เหตุเกิดริมถนนหน้าร้านกิตติก๋วยเตี๋ยวเป็ด ถ.เจ้าฟ้าตะวันออก ต.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต ทราบชื่อคือ ด.ต.สมศักดิ์ หนูเอียด ผบ.หมู่ (จร.) ในขณะออกตรวจพื้นที่รับผิดชอบและอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน โดยเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บบริเวณแขน และขา

ล่าสุด วันนี้ (18 มี.ค.) ที่ห้องประชุมกองบังคับตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย พล.ต.ต.สินเลิศ สุขุม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.ธีรวัฒน์ เลี่ยมสุวรรณ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.เอกรัตน์ พลายด้วง ผกก.สภ.ฉลอง ตรวจคนเข้าเมืองภูเก็ต ตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ต ร่วมแถลงข่าวกรณี 2 นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติทำร้าย แย่งอาวุธปืนเจ้าหน้าที่ตำรวจ

โดย พล.ต.ต.สินเลิศ สุขุม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า สำหรับในส่วนของชาวต่างชาติทั้ง 2 ราย คือ MR.HAMISH ART DAY อายุ 34 ปี สัญชาตินิวซีแลนด์ และ MR.OSCAR MATTSON DAY อายุ 36 ปี สัญชาตินิวซีแลนด์ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า มีอาชีพเป็นนักมวย MBA ทำให้มียุทธวิธีในการต่อสู้ แม้ว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการตามยุทธวิธีในการควบคุม แต่ไม่สามารถที่จะสู้ในเรื่องของพละกำลังได้ ทำให้ถูกล็อกตัว และแย่งอาวุธปืน แต่ใช้เวลาไม่เกิน 3 นาที กำลังตำรวจ สภ.ฉลอง ได้เข้าสมทบและควบคุมตัวผู้ต้องหาได้สำเร็จ

โดยวันนี้ได้นำตัวผู้ต้องหาฝากขังที่ศาลจังหวัดภูเก็ต และทางตำรวจคัดค้านการประกันตัว พร้อมแจ้งดำเนินคดี 5 ข้อหา "ร่วมกันชิงทรัพย์ ร่วมกันต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่ ร่วมกันทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่ ร่วมกันพยายามให้ ขอให้หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดแก่เจ้าพนักงาน เพื่อจูงใจให้กระทำการ ไม่กระทำการ หรือประวิงการกระทำอันมิชอบด้วยหน้าที่ ขับรถโดยไม่มีใบอนุญาตขับรถ"

อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ทางตรวจคนเข้าเมือง 6 ได้สั่งเพิกถอนวีซ่าของนักท่องเที่ยวทั้ง 2 รายแล้ว เนื่องจากมีพฤติกรรมก่อคดีอุกฉกรรจ์ร้ายแรง ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว และอาจจะเป็นอันตรายต่อบุคคลอื่น และจากการตรวจสอบพบว่าต่างชาติทั้ง 2 คน เดินทางเข้ามาในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 11 มี.ค.67 และกำหนดครบการอนุญาตวันที่ 9 เม.ย. โดยพักอยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่ป่าตอง จ.ภูเก็ต โดยใช้วีซ่านักท่องเที่ยว

พล.ต.ต.เลิศสิน ยังได้กล่าวต่อไปว่า ตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 และตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดดำเนินการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับผู้กระทำความผิดในทุกด้านไม่ว่าจะเป็นชาวไทยหรือชาวต่างชาติ เพื่อส่งเสริมภาพและการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตให้มีความสงบเรียบร้อย ทั้งนี้ ทางตำรวจภูธรจังหวัดเก็ต ขอประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชน และนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในจังหวัดภูเก็ต ให้เคารพกฎหมายของประเทศไทย เนื่องจากตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต จะดำเนินการอย่างเด็ดขาดหากพบการกระทำความผิด และหากผู้ใดมีเบาะแสการกระทำความผิดต่างๆ สามารถแจ้งได้ที่สถานีตำรวจที่ใกล้เคียง หรือหมายเลขโทรศัพท์ 191 หรือเพจของตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต

สำหรับข้อมูลชาวต่างชาติถูกดำเนินคดีเพิกถอนวีซ่าของจังหวัดภูเก็ตในปี 2567 ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 จนถึงปัจจุบัน รวม จำนวน 95 ราย (โดยเป็นชาวจีนจำนวน 41 ราย พม่า 28 ราย รัสเซีย 8 ราย อินเดีย 5 ราย ออสเตรเลีย 3 ราย โมร็อกโก 2 ราย อังกฤษ 2 ราย และอื่นๆ 5 ราย) ในข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่น 1 ราย ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน 6 ราย ลักทรัพย์ 6 ราย พระราชบัญญัติยาเสพติด 23 ราย และต่างด้าวทำงาน 50 ราย

ขณะที่ นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า "จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จังหวัดภูเก็ตได้มีการดำเนินการตามกฎหมายอย่างเข้มงวดกับชาวต่างชาติที่กระทำผิดในพื้นที่ ชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในจังหวัดภูเก็ตจะต้องเคารพกฎหมายส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีด้านการท่องเที่ยว ในส่วนของจังหวัดภูเก็ต จะทำหนังสือแจ้งกงสุลนิวซีแลนด์ในประเทศไทย เพื่อแจ้งรายงานพฤติกรรมของชาวนิวซีแลนด์ที่ก่อเหตุดังกล่าว อย่างไรก็ตาม จังหวัดภูเก็ตมีการประชุมกงสุลทุก 2 เดือน ซึ่งได้ขอความร่วมมือกงสุลขอให้ช่วยประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติทุกประเทศปฏิบัติตามกฎหมายของประเทศไทยเพื่อให้ท่องเที่ยวและอยู่ในจังหวัดภูเก็ตอย่างมีความสุข นักท่องเที่ยวที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

ขณะที่ในส่วนของการดูแลเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถูกทำร้ายร่างกาย นั้นขณะนี้ทางผู้บังคับการ และตำรวจภูธรฉลอง รวมทั้งรองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจแล้ว ซึ่งพบว่าผู้เสียหายมีกำลังใจดี และพร้อมที่จะกลับมาปฏิบัติหน้าที่เพื่อดูแลประชาชนต่อไป