Stay on this page and when the timer ends, click 'Continue' to proceed.

Continue in 17 seconds

ตร.ภ.8ร่วมตร.ภูเก็ตเช็กบิลต่างชาติเปิดธุรกิจใช้นอมินีหลังมีการร้องเรียนจับผู้ต้องหา 5รายเงินหมุนเวียน 80ล้าน

ตร.ภ.8ร่วมตร.ภูเก็ตเช็กบิลต่างชาติเปิดธุรกิจใช้นอมินีหลังมีการร้องเรียนจับผู้ต้องหา 5รายเงินหมุนเวียน 80ล้าน

Source: mgronline.com

ศูนย์ข่าวภูเก็ต -ตร.ภูธรภาค 8ร่วมกับตร.ภูเก็ต ตามเช็กบิลต่างชาติเปิดธุรกิจลักษณะนอมินีหลังมีการร้องเรียนจับผู้ต้องหา 5รายมีเงินหมุนเวียน 80ล้านบาท ตรวจสอบเสส้นทางการเงินหลักฐานจัดโอนเข้าต่างชาติรายเดียว

วันนี้ (4เม.ย.) ตามนโยบายและข้อสั่งการของพล.ต.ท.สุรพงษ์ถนอมจิตรผบช.ภ8 ,พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวนผบก.สส.ภ. 8และพล.ต.ต.สินเลิศ สุขุม ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ให้สืบสวนจับกุมบุคคลต่างด้าวที่เข้ามาอยู่ในประเทศไทยซึ่งลักลอบประกอบอาชีพหรือประกอบธุรกิจอันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายต่อมาเจ้าพนักงานตำรวจชุดหลัง

หลังได้รับแจ้งจากสายลับว่าร้านอาหาร OCTOPUSว่ามีชาวต่างชาติมักมาทำการวมกลุ่มกันเป็นประจำ และมีการกระทำอันฝ่าฝืนกฎหมาย โดยกลุ่มบุคคลด้าวซึ่งได้รับอนุญาตให้เข้ามาในราชอาณษจักรไทย ใช้ช่องว่างทางกฎหมายดำเนินการประกอบธุรกิจในประเทศไทย โดยมีคนไทยให้การช่วยเหลือสนับสนุน ทำการจดทะเบียนเพื่อจัดตั้งบริษัท ไว้กระทำการเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุนของคนต่างด้าวหรือที่เรียกว่า "นอมีนี"

โดยวันนี้ 4เม.ย.พล.ต.ต.ศรัญญูชำนาญราชรองผบช.ภ8พร้อมพ.ต.อ.อกนิษฐด่านพิทักษ์ศาสน์รองผบก.ภ.จว.ภูเก็ตสนธิกำลังเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆเปิดปฏิบัติการระดมกวาดล้างปราบปรามจับกุมผู้กระทำผิดตามพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวพ.ศ.2542ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตเข้าตรวจสอบ ที่ร้านOCTOPUSถนนบ้านดอน-เชิงทะเล ตำบลเชิงละเทอำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต

ในเบื่องต้นได้มีการดำเนินคดีกับผู้ต้องหา 5รายประกอบด้วยบริษัทในความผิดฐานคนต่างด้าวร่วมกันประกอบธุรกิจที่คนไทยยังไม่มีความพร้อมที่จะแข่งขันในการประกอบกิจการโดยไม่ได้รับอนุญาต 2 .นางสาวปุณยนุชกรรมการ,ผู้ถือหุ้นความผิดฐานให้ความช่วยเหลือหรือสนับสนุนหรือร่วมประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวโดยคนต่างด้าวนั้นมิได้รับอนุญาตหรือร่วมประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวโดยแสดงออกว่าเป็นธุรกิจของตนแต่เพียงผู้เดียวหรือถือหุ้นแทนคนต่างด้าวเพื่อให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจโดยหลีกเลี่ยงหรือฝ่าฝืนกฎหมาย

3.นายวาลาดิสลาฟสัญชาติรัสเซีย (กรรมการ,ผู้ถือหุ้น)

ความผิดฐานเป็นคนต่างด้าวร่วมกันประกอบธุรกิจที่คนไทยยังไม่มีความพร้อมที่จะแข่งขันในการประกอบกิจการโดยไม่ได้รับอนุญาตและเป็นคนต่างด้าวซึ่งยินยอมให้ผู้มีสัญชาติไทยหรือนิติบุคคลที่มิใช่คนต่างด้าวตามพระราชบัญญัตินี้กระทำการให้ความช่วยเหลือหรือสนับสนุนหรือร่วมประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวโดยคนต่างด้าวนั้นมิได้รับอนุญาตหรือร่วมประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวโดยแสดงออกว่าเป็นธุรกิจของตนแต่เพียงผู้เดียวหรือถือหุ้นแทนคนต่างด้าวเพื่อให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจโดยหลีกเลี่ยงหรือฝ่าฝืนกฎหมาย

4นายวาเลรี สัญชาติรัสเซีย (ผู้ถือหุ้น)ความผิดฐานเป็นคนต่างด้าวร่วมกันประกอบธุรกิจที่คนไทยยังไม่มีความพร้อมที่จะแข่งขันในการประกอบกิจการโดยไม่ได้รับอนุญาตและเป็นคนต่างด้าวซึ่งยินยอมให้ผู้มีสัญชาติไทยหรือนิติบุคคลที่มิใช่คนต่างด้าวตามพระราชบัญญัตินี้กระทำการให้ความช่วยเหลือหรือสนับสนุนหรือร่วมประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวโดยคนต่างด้าวนั้นมิได้รับอนุญาตหรือร่วมประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวโดยแสดงออกว่าเป็นธุรกิจของตนแต่เพียงผู้เดียวหรือถือหุ้นแทนคนต่างด้าวเพื่อให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจโดยหลีกเลี่ยงหรือฝ่าฝืนกฎหมาย

และ 5นายพาเวลสัญชาติรัสเซีย ความผิดฐานเป็นคนต่างด้าวร่วมกันประกอบธุรกิจที่คนไทยยังไม่มีความพร้อมที่จะแข่งขันในการประกอบกิจการโดยไม่ได้รับอนุญาต

ซึ่งในคดีนี้บริษัทวีวีจีอะไลอันซ์จำกัดประกอบธุรกิจเกี่ยวกับจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มใช้ชื่อร้านว่า "OCTOPUS"ตั้งอยู่ถนนบ้านดอน-เชิงทะเลตำบลเชิงทะเลอำเภอถลาง โดยมีนางสาวปุณยนุชสัญชาติไทยผู้ต้องหาที่ 2และนายวาลาดิสลาฟสัญชาติรัสเชียผู้ต้องหาที่ 3เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ มีผู้ถือหุ้นดังนี้

1.นางสาวปุณยนุช ผู้ต้องหาที่๒จำนวนหุ้นที่ถือ 20,400หุ้น,คิดเป็น51เปอร์เซ็นต์ 2.นายวาลาดิสลาฟชินาคอฟผู้ต้องหาที่ 3จำนวนหุ้นที่ถือ 9,800หุ้นคิดเป็น 24.5เปอร์เซ็นตฒ์ 3.นายวาเลรีผู้ต้องหาที่ 4จำนวนหุ้นที่ถือ 9,800หุ้นคิดเป็น24.5เปอร์เซ็นต์

ในส่วนของนายพาเวลผู้ต้องหาที่ 5ทำหน้าที่ในการบริหาร ดูแลทางด้านการเงินและมีอำนาจตัดสินใจแทนนายวาลาดิสลาฟผู้ต้องหาที่ 3ซึ่งเป็นเจ้าของร้าน OCTOPUSที่แท้จริง

สอดคล้องตรงกับแนวทางการสืบสวนสอบสวน ยังปรากฎทราบว่านางสาวปุณยนุช ผู้ต้องหาที่๒ซึ่งเป็นกรรมการผู้มีอำนาจและหุ้นส่วนใหญ่นั้นเป็นเพียงหุ่นเชิดของกลุ่มทุนต่างชาติเท่านั้น มิได้มีอำนาจใดๆในจัดการในบริษัทฯแต่อย่างใด ประกอบกับสอดคล้องกับเส้นทางการเงินแสดงให้เห็นว่าเงินของทางร้านได้เข้าไปในบัญชีนายวาลาดิลาฟซึ่งชี้ให้เห็นว่าว่านายวาลาดิลาฟคือเจ้าของร้านและเป็นเจ้าของบริษัทวีวีจีอะไลอันซ์จำกัดและจากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของกลุ่มผู้ต้องหาปรากฏมีเงินหมุนเวียนในบัญชีธนาคาร ประมาณ 80ล้านบาท

ท้ายนี้ตำรวจภูธรภาค 8กองบังคับการสืบสวนสอบสวนภาค๘ 8และตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ขอฝากประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อมวลชนเกี่ยวกับบริษัทต่างๆซึ่งจดทะเบียนบริษัทแล้วประกอบธุรกิจในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตหรือในราชอาณาจักรไทยหากบุคคลใดกระทำการในลักษณะดังกล่าวขอให้หยุดการประกอบธุรกิจเช่นนี้ เนื่องจากทางตำรวจภูธรภาค๘และตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตจะดำเนินการกลุ่มบุคคลและบริษัทฯซึ่งประกอบธุรกิจในลักษณะนี้ตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด