Stay on this page and when the timer ends, click 'Continue' to proceed.

Continue in 17 seconds

กรมอุทยานฯ ช่วยเหลืออาสาสมัครถูกหมีควายตะปบ ขณะตรวจไฟป่า

กรมอุทยานฯ ช่วยเหลืออาสาสมัครถูกหมีควายตะปบ ขณะตรวจไฟป่า

Source: สำนักข่าวไทย อสมท
Author: Manapa Sirisomboon

ลำปาง 22 เม.ย. - อธิบดีกรมอุทยานฯ สั่งช่วยเหลือด้านสวัสดิการแก่เครือข่ายอส.อส. ที่ถูกหมีควายตะปบ เย็บ 10 เข็ม ขณะลาดตระเวนตรวจไฟป่าในอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน จังหวัดลำปาง ล่าสุดอาการปลอดภัย กลับไปพักฟื้นที่บ้านแล้ว

นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชกล่าวว่า ได้รับรายงานจากนายพีรวัฒิ สิโรตม์พิพัฒ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 สาขาลำปางถึงเหตุหมีควายทำร้าย ขณะที่เครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช (อส.อส.) 3 คนได้แก่ นายสาม มุ่งตรง นายคงศักดิ์ เจ้าเล่ห์ดี และนายมิตรชัย ปากหวาน เข้าตรวจสอบเหตุตามที่ได้รับแจ้งว่า เกิดกลุ่มควันบริเวณห้วยดอกลาวในเขตอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน ท้องที่บ้านวังนิมิตร หมู่ที่ 17 ตำบลร่องเคาะ อำเภอวังเหนือ จังหวัดลำปาง

ขณะสมาชิกเครือข่ายอส.อส. ทั้ง 3 คนลาดตระเวนไปถึงบริเวณห้วยดอกลาว ได้พบหมีควายซึ่งประจันหน้ากันโดยไม่ทันได้ระวังตั้งตัว หมีควายปรี่เข้าทำร้ายนายสามแบบกระชั้นชิด โดยเข้าตะปบบริเวณศีรษะด้านซ้ายและต้นแขนด้านขวา เป็นแผลฉกรรจ์ฉีกขาด โดยนายคงศักดิ์และนายมิตรชัยเข้าไปช่วยเหลือ ทำให้หมีควายวิ่งหลบหนีเข้าป่าไป จากนั้นนำตัวนายสามออกจากป่าเพื่อนำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลวังเหนือ

แพทย์เย็บบาดแผลรวม 10 เข็ม ขณะนี้อาการของผู้บาดเจ็บ ปลอดภัยแล้วและได้กลับมาพักฟื้นที่บ้านวังนิมิตร

อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อนและสถานีควบคุมไฟป่าแจ้ซ้อนจัดเจ้าหน้าที่แจ้งเตือนประชาชนเพิ่มความระมัดระวัง หากพบเห็นสัตว์ป่าให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่โดยด่วนเพื่อเฝ้าระวังและผลักดันกลับเข้าป่า

สำหรับหลักเกณฑ์ฯการช่วยเหลือเยียวยา กรณีที่ถูกสัตว์ป่าดังกล่าวข้างต้นทำร้าย หากเสียชีวิตหรือทุพพลภาพ จ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยา 100,000 บาท กรณีบาดเจ็บ ให้จ่ายตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 30,000 บาทและจ่ายค่าเสียโอกาสในการทำงาน วันละ 300 บาท ไม่เกิน 180 วัน ตามความเห็นแพทย์

ทั้งนี้ อธิบดีกรมอุทยานฯ ได้สั่งการให้สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 สาขาลำปางและสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่าช่วยเหลือด้านสวัสดิภาพและสุขภาพเครือข่ายอส.อส. โดยเร่งด่วน พร้อมเน้นย้ำให้เครือข่ายอส.อส. และเจ้าหน้าที่ทุกคนจะต้องปฏิบัติงานด้วยความระมัดระวัง ตลอดจนต้องคำนึงถึงสุขภาพและความปลอดภัยเป็นสำคัญ.-512 - สำนักข่าวไทย