Stay on this page and when the timer ends, click 'Continue' to proceed.

Continue in 17 seconds

ชาวบ้านผวาทั้งตำบล บุคคลอันตรายหนีการจับกุมแต่ยังวนเวียนในพื้นที่ ขู่ฆ่าชาวบ้าน

ชาวบ้านผวาทั้งตำบล บุคคลอันตรายหนีการจับกุมแต่ยังวนเวียนในพื้นที่ ขู่ฆ่าชาวบ้าน

Source: mgronline.com

ชุมพร - ชาวบ้านผวาทั้งตำบล บุคคลอันตราย ผู้ต้องหาตามหมายจับพยายามฆ่า หลบหนีการจับกุมแต่ยังวนเวียนในพื้นที่ ขู่ฆ่าชาวบ้าน ญาติพี่น้อง ไม่เว้นแม้แต่ปลัดอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน พบมีประวัติโชกโชน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สวี จ.ชุมพร ปฏิบัติการร่วมกับตำรวจชุดราชเดช จ.ชุมพร และสุนัขดมกลิ่น ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.วิษณุ สุระวดี ผกก.สภ.สวี ชุดตรวจค้น นำโดย พ.ต.ท.ถิรเดช แข็งแรง รอง ผกก.สส.สภ.สวี พ.ต.ท.เชิดชัย ยิ่งสังข์ รอง ผกก.ป.สภ.สวี พ.ต.ท.ชัยณรงค์ ราชรักษ์ สว.สส.สภ.สวี พ.ต.ต.เจียรศักดิ์ ยินดี สวป.สภ.สวี นายบุญก้อง ศรีสงคราม ปลัดอำเภอสวี นายธีรยุท สมศรี กำนันตำบลวิสัยใต้ พร้อมพวก

ได้ร่วมกันนำหมายค้นที่ 26/2567 และหมายจับที่ 76/2567 ศาลจังหวัดหลังสวน ลงวันที่ 18 เม.ย.2567 ทำการตรวจค้นบ้านเลขที่ 27 ม.10 ต.วิสัยใต้ อ.สวี จ.ชุมพร เมื่อวันที่ 19 เม.ย.67 ที่ผ่านมา เพื่อจับกุม นายสมชาย หนูภักดี อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 27 ม.10 ต.วิสัยใต้ อ.สวี จ.ชุมพร บุคคลตามหมายจับ ในความผิดฐานยิงปืนโดยไม่มีเหตุอันควรในเมือง หมู่บ้าน และทำให้ผู้อื่นตกใจกลัวโดยขู่เข็ญ มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพยายามฆ่า

ผลจากการตรวจค้นไม่พบตัวนายสมชาย หนูภักดี ได้ร่วมกันทำการตรวจยึดเครื่องกระสุนปืน ขนาด.22 จำนวน 194 นัด หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดปรากฏว่า นายสมชาย ได้หลบหนีออกทางหน้าต่างข้างบ้านเดินถือปืนยาวหายไปในป่าหลังบ้านไปก่อนหน้านั้นแล้ว

จากเหตุการณ์ดังกล่าวผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายมนตรี พรมมาศ อายุ 53 ปี และ น.ส.ชญาภา พรมมาศ อายุ 30 ปี ทั้งสองเป็นพ่อลูกกัน อยู่บ้านเลขที่ 58/1 หมู่ 6 ต.วิสัยใต้ อ.สวี จ.ชุมพร ซึ่งเป็นญาติของผู้ต้องหาตามหมายจับและเป็นผู้เสียหาย เล่าถึงสาเหตุก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าปิดล้อมบ้านนายสมชาย ว่า เมื่อวันที่ 7 เม.ย.ที่ผ่านมา นายมนตรี พร้อมภรรยาและลูกสาว เดินทางไปสวนปาล์มซึ่งต้องผ่านบ้าน นายสมชาย และเป็นที่ดินของตนเอง

แต่รถไม่สามารถขับผ่านไปได้ เพราะนายสมชาย จอดรถยนต์กระบะขวางปิดถนน จึงลงจากรถเพื่อจะบอกให้นายสมชาย เลื่อนรถออก แต่ระหว่างนั้น นายสมชาย ไม่พูดพล่ามทำเพลงยกปืนทำท่าจะยิง น.ส.ชญาภา ลูกสาว แต่ตนได้เห็นเสียก่อนจึงกระโดดวิ่งออกจากรถแล้วพากันวิ่งหลบหนี นายสมชายลั่นไกปืนลูกซองยาว 1 นัด แบบบรรจุกระสุนได้นัดเดียว ยิงไล่ตามหลัง แต่โชคดีที่ไม่โดนใคร

หลังจากนั้น น.ส.ชญาภา จึงใช้มือถือถ่ายคลิป ทำให้นายสมชาย ไม่พอใจ พร้อมตะโกนด่าด้วยคำหยาบคาย และบอกว่าจะยิงให้ตายเป็นกองเลย ก่อนจะกลับเข้าบ้านไป ส่วนตน และลูกสาวได้ย้อนกลับมาขับรถหนี ออกมาแล้วโทร.แจ้งตำรวจ ก่อนนำหลักฐานไปแจ้งความที่ สภ.สวี ต่อมาเมื่อวันที่ 19 เม.ย.กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจนำหมายจับมาจับกุมตัวนายสมชาย ดังกล่าวแต่ไม่พบตัว

นายมนตรี เปิดเผยว่า ตนไม่เคยทะเลาะกับ นายสมชาย เลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่อาจจะมาจากความโกรธแค้นตนเรื่องบ้านพัก ที่นายสมชาย พักอยู่นั้น ซึ่งเป็นบ้านและที่ดินมรดก ที่ได้รับตกทอดของตน แต่ได้ให้นายสมชาย อยู่อาศัย โดยห้ามนายสมชายทำอะไรเป็นการถาวร เพราะกลัวจะมีปัญหาภายหลัง แต่นายสมชายไม่ฟังภายหลังมีการถมดินบริเวณรอบบ้านและสร้างโรงเพาะชำอีก ซึ่งมีการพูดห้ามจึงอาจจะทำให้สมชายไม่พอใจในเรื่องนี้

นอกจากนี้ ทราบว่า นายสมชาย ก่อเหตุกับชาวบ้านในพื้นที่อีกหลายราย แต่ไม่มีใครกล้าไปแจ้งความ เพราะเจ้าหน้าที่จับแล้วปล่อยออกมาเหมือนเดิม ส่วนที่นายสมชาย อ้างว่า ตนมีบัตรคนบ้าหรือบัตรผู้ป่วยทางจิตนั้น ตนไม่เชื่อ เพราะนายสมชาย มีพฤติกรรมชอบฉ้อโกงชาวบ้านดูแล้วยังมีสติดี จนปัจจุบันพวกเราไม่กล้าออกไปไหน เพราะยังจับนายสมชายไม่ได้

ทางด้าน นายธีรยุท สมศรี กำนันตำบลวิสัยใต้ อ.สวี จ.ชุมพร กล่าวหลังจากร่วมปฏิบัติการร่วมเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมตัวนายสมชาย ผู้ต้องหาตามหมายจับข้อหาพยายามฆ่า ทราบว่า ผู้ต้องหารายนี้ยังวนเวียนอยู่ในพื้นที่และได้มีการพูดจาไปทั่วกับชาวบ้าน ทำนองข่มขู่จะฆ่ากำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และปลัดอำเภอสวีด้วย ทำให้ต้องออกมาเปิดเผยพฤติกรรม นายสมชาย ผู้ต้องหารายนี้ โดยเหตุการณ์แรกที่นายสมชาย ก่อเหตุคือ ใช้มีดฟันรถเจ้าหน้าที่ป่าไม้จนเสียหาย ขณะที่มีเจ้าหน้าที่อยู่ในรถคันดังกล่าวจำนวน 4 คน แต่ไม่ทราบสาเหตุว่ามาจากเรื่องใด

เหตุการณ์ที่ 2 ใช้มีดฟันรถรับซื้อกล้วยหอมในพื้นที่ เหตุการณ์ที่ 3 ใช้มีดดาบไล่ฟันเจ้าหน้าที่ตำรวจด่านตำรวจทางหลวงบนถนนสายเอเชีย 41 ในเขตตำบลวิสัยใต้ เพื่อให้เลิกด่านอ้างชาวบ้านเดือดร้อน หลังจากนั้นใช้อาวุธปืนยิงข่มขู่ใส่รถแบ็กโฮ รถ 6 ล้อในพื้นที่ ยิงปืนใส่รถน้ำแข็ง ซึ่งอะไรก็ตามถ้าทำให้นายสมชายไม่พอใจจะใช้อาวุธปืนยิงขู่ และยังเคยใช้อาวุธปืนลูกซองจ่อขู่ลำตัวของชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 2 ด้วย ซึ่งพฤติกรรมทั้งหมดถือเป็นความผิดอาญา แต่ชาวบ้านไม่เอาความส่วนหนึ่งเป็นญาติพี่น้องของนายสมชายเอง จนก่อเหตุครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 7 เม.ย.จึงถูกแจ้งความพยายามฆ่า และถูกออกหมายจับและสามารถหลบหนีไปได้ จนกระทั่งทุกวันนี้นายสมชาย ผู้ก่อเหตุที่หลบหนีอยู่ในพื้นที่ยังไปพูดกับชาวบ้านว่า ถ้าเจอกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และปลัดอำเภอสวี จะยิงทันที อยากจะให้มอบตัวสู้คดี โดยพฤติกรรมนายสมชายเป็นบุคคลอันตราย ซึ่งทราบว่านายสมชายเป็นโรคไบโพล่า มีอาการทางจิตแต่ช่วงหลังน่าจะขาดยา

ส่วนนายสถาพร ขาวพิมล อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 134/1 หมู่ 2 ต.วิสัยใต้ อ.สวี จ.ชุมพร หนึ่งในผู้ที่ถูกนายสมชายใช้ปืนข่มขู่ เล่าว่า นายสมชาย วานให้ตนต่อสายโทรศัพท์หา "ปลัดก้อง" ปลัดอำเภอสวี แต่ตนไม่โทร.ให้ทำให้นายสมชายไม่พอใจ ต่อมาเจอหน้ากันนายสมชาย ใช้ปืนลูกซองยาวจ่อที่หน้าท้องพร้อมกับพูดขู่ว่า ยังมึงอีกคนยิงตายโหงให้หมด ยังมี "ผู้ใหญ่เอ้ กับ ป.ก้อง ก็จะยิงให้หมด" ซึ่งจากที่ตนสังเกตเห็นนายสมชายนั้นนอกจากมีปืนลูกซองยาวแล้ว ยังพกปืนขนาด.38 ไว้ที่เอวด้วย ขณะใช้ปืนข่มขู่มีผู้หญิงคนหนึ่งในพื้นที่ ผู้หญิงบางคนที่ถูกใช้ปืนข่มขู่ถึงกับฉี่แตกก็มี ตนถือว่าสมชายเป็นบุคคลอันตรายอย่างมาก

ขณะที่ นายสมทรัพย์ หนองเทา อายุ 31 ปี และนางส่งเสริม อายุ 55 ปี สองแม่ลูกชาวบ้านหมู่ 10 ต.วิสัยใต้ มีอาชีพรับซื้อกล้วยหอมทอง เล่าว่า ครอบครัวตนเคยถูกนายสมชาย ใช้มีดดาบฟันที่กระโปรงรถมาแล้ว โดยไม่ทราบสาเหตุ ขณะจอดรถแวะซื้อแตงโมบนถนนข้างทางเข้าบ้าน และใช้มีดไล่ฟันคนงานแต่ทุกคนหนีรอดไปได้ จึงไปแจ้งความแต่ยังไม่ถูกจับ หลังจากนั้นเจอหน้ากันนายสมชายพูดข่มขู่ว่ามึงพาตำรวจจับกู ถ้าไม่อยากตายทั้งครอบครัวให้ย้ายไปอยู่ที่อื่น ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้นไม่เคยมีเรื่องบาดหมาง หรือมีปัญหากันมาก่อน

ด้าน น.ส.บุญมี พรามดี อายุ 49 ปี อาชีพค้าขาย ซึ่งเป็นญาติสนิทของนายสมชาย เล่าให้ฟังถึงพฤติกรรมของนายสมชายว่า เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา นายสมชายไม่พอใจ โมโหที่คนขับรถส่งน้ำแข็งไม่แวะส่งน้ำแข็งให้เพราะน้ำแข็งหมด ต่อมา นายสมชาย ได้มาเจอคนขับรถส่งน้ำแข็งที่ร้านค้าของตน แล้วพูดข่มขู่ว่า "เดี๋ยวมึงจะตายทั้งคนทั้งรถกูจะเผาให้หมด" หลังจากนั้นยิงปืนขึ้นฟ้าประมาณ 3-4 นัด และเอาปืนทุบรถส่งน้ำแข็ง ขณะนั้นลูกค้าที่ร้านของตนอยู่กันหลายคน จนปัจจุบันรถส่งน้ำแข็งไม่กล้าขึ้นมาส่งที่ร้านตนอีกเลย เพราะกลัวทางร้านได้รับผลกระทบไปด้วยโดยไม่มีน้ำแข็งขาย อยากให้นายสมชายมามอบตัวไม่อยากให้ทำร้ายผู้อื่น