"สหกรณ์ออมดี มีสุข" เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
Source: สำนักข่าวไทย อสมท
Author: Manapa Sirisomboon
กรุงเทพฯ 16 พ.ค. - กรมส่งเสริมสหกรณ์ Kick Off กิจกรรม "สหกรณ์ออมดี มีสุข" ภายใต้โครงการสหกรณ์อาสาทำความดีด้วยหัวใจ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ สร้างวินัยการออมเพิ่มต่อยอดความมั่นคงในชีวิต
นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์เป็นประธานเปิดกิจกรรม "สหกรณ์ออมดี มีสุข" เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 72 พรรษา 28 กรกฎาคม 2567 โดยมีนายนิรันดร์ มูลธิดา รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์และนายประวัติ แดงบรรจง รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์เข้าร่วมพิธีซึ่งมีถ่ายทอดผ่านระบบออนไลน์ไปยังส่วนภูมิภาคที่ Kick Off กิจกรรมพร้อมกัน
กรมส่งเสริมสหกรณ์จัดทำโครงการในการสืบสาน รักษา และต่อยอดแนวพระราชดำริต่างๆ เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี เพื่อให้บุคลากร สมาชิกสหกรณ์ และประชาชนมีส่วนร่วม ในการดำเนินกิจกรรมด้านการออม โดยมุ่งส่งเสริมให้รู้จักวางแผนการใช้จ่ายเงิน มีวินัยทางการเงิน และสามารถบริหารจัดสรรเงินออมได้อย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างความมั่นคงในชีวิตตามแนวทางหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
วิธีการออมมี 3 รูปแบบได้แก่ การออมโดยเปิดบัญชีใหม่กับสหกรณ์ การออมโดยใช้บัญชีเงินฝากเดิมที่สมาชิกมีอยู่กับสหกรณ์ และการออมโดยการหยอดกระปุกออมสินที่กรมจัดจำหน่าย หรือนำวัสดุเหลือใช้มาจัดทำกระปุกออมสินเอง
กิจกรรม "สหกรณ์ออมดี มีสุข" มีกลุ่มเป้าหมายเป็นบุคลากรกรมส่งเสริมสหกรณ์ ขบวนการสหกรณ์ที่สมัครใจเข้าร่วมโครงการ 720,010 คน ร่วมออมคนละไม่น้อยกว่า 10 บาท/วัน ตั้งเป้าหมายการออม 1,072 ล้านบาทในเดือนกันยายน เมื่อถึงวันสิ้นสุดโครงการในธันวาคม 2567 คาดว่า จะออมได้รวม 1,772 ล้านบาท คาดหวังว่า จะมีเงินที่เกิดขึ้นจากการออมอยู่ในระบบสหกรณ์มากกว่า 1,000 ล้านบาท
ภายในงานยังมีนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว การตกแต่งกระปุกออมสิน พร้อมรับของรางวัลในกิจกรรมการออมต่างๆ แจกสติ๊กเกอร์ และการออกบูธกิจกรรมของสหกรณ์เพื่อประชาสัมพันธ์การออม
อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์กล่าวเพิ่มเติมว่า เป้าหมายของระบบสหกรณ์คือ การที่ให้ทุกคนอยู่ดีกินดี โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์ให้ความสำคัญในด้านการพัฒนาคนให้ช่วยเหลือตนเอง รวมถึงช่วยเหลือกันและกันเพื่อไปสู่เป้าหมายดังกล่าว ถ้าทุกคนมีเงินออมจะเหมือนมีภูมิคุ้มกันชีวิตให้อยู่ดีมีสุขและสามารถนำเงินออมไปใช้ในอนาคตตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ ขณะเดียวกันการออมยังเกิดประโยชน์ต่อสหกรณ์ที่สามารถนำเงินออมจากโครงการนี้มาหมุนใช้ในระบบสหกรณ์เพื่อช่วยเหลือสมาชิกที่จำเป็นหรือเดือดร้อนและลงทุนในด้านอื่นๆ ต่อไปได้ซึ่งดีต่อเศรษฐกิจในภาพรวมด้วย. 512 - สำนักข่าวไทย