ชายฉกรรจ์ 2 กลุ่มเปิดศึกทะเลาะวิวาท ทำร้ายร่างกาย แย่งสิทธิครอบครองที่ดินหาดนุ้ย จ.ภูเก็ต

Source: mgronline.com

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - กลุ่มชายฉกรรจ์ 2 กลุ่ม ก่อเหตุทะเลาะวิวาททำร้ายร่าง ต่างอ้างสิทธิครอบครองที่ดินหาดนุ้ย ต.กะรน จ.ภูเก็ต แม้ศาลฎีกาจะตัดสินว่าเป็นที่ป่าไม้

วันนี้ (23 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีการแชร์คลิปเหตุการณ์เอกชน 2 กลุ่ม ทะเลาะวิวาทกันอย่างดุเดือด จากการตรวจสอบพบว่า เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในหาดนุ้ย ตำบลกะรน อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นที่ดินที่กรมป่าไม้ออกมายืนยันว่า เป็นพื้นที่ของป่าไม้ อยู่เขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเทือกเขานาคเกิด หลังศาลฎีกามีคำพิพากษาให้ เพิกถอน น.ส.3 ของหาดนุ้ยไปตั้งแต่ปี 2558 หลังมีการพิสูจน์หลักฐาน และปรากฏข้อเท็จจริงชัดเจนว่า มีการใช้ ส.ค. 1 คนละแปลงบินมาสวมทับเพื่อขอยื่นออกเอกสารสิทธิบนที่ดินหาดนุ้ย

แต่ปัจจุบันที่ดินผืนนี้ยังมีเอกชนอ้างสิทธิเข้าไปครอบครองทำประโยชน์ และมีการร้องเรียนว่ามีการเรียกเก็บเงินค่าผ่านทางลงชายหาดคนละ 100 บาท จนเป็นข่าวโด่งดังไปก่อนหน้านี้ และปัจจุบันอยู่ในช่วงที่กรมป่าไม้ให้เวลาเอกชนที่อ้างกรรมสิทธิ์ที่ดินรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดออกจากที่ดินแปลงดังกล่าว

ตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า คลิปเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นกลุ่มของผู้ที่อ้างการถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดินหาดนุ้ยทั้งคู่ ระหว่างฝ่ายหนึ่งเป็นผู้ที่อ้างการถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดินหาดนุ้ย และปลูกสร้างสิ่งปลูกสร้างอยู่บนที่ดินคนปัจจุบัน กับอีกฝ่ายเป็นผู้ที่อ้างกรรมสิทธิ์ที่ดินหาดนุ้ยก่อนหน้าที่จะถูกศาลจังหวัดภูเก็ตพิพากษาตัดสินจำคุกข้อหาบุกรุกที่ดินหาดนุ้ย และขับไล่ออกจากพื้นที่ กระทั่งปรากฏชื่อของผู้อ้างกรรมสิทธิ์ครอบครองในปัจจุบัน

ที่ดินหาดนุ้ย มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 18 ไร่เศษ ถือเป็นที่ดินทำเลทองอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดภูเก็ต หากมีการซื้อขายกันในปัจจุบันจะมีมูลค่าจำนวนหลายร้อยล้านบาท เนื่องจากเป็นชายหาดที่มีลักษณะเป็นหาดส่วนตัว

โดยเมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นายบรรณารักษ์ เสริมทอง รองอธิบดีกรมป่าไม้ ได้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และฝ่ายปกครองนับร้อยนายนำหมายค้นของศาลจังหวัดภูเก็ตเลขที่ 88/2567 เพื่อขอเข้าทำการตรวจค้นภายในที่ดินหาดนุ้ยและมีการแจ้งความดำเนินคดีให้ผู้ครอบครองในขณะนั้น พร้อมให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากหาดนุ้ยทั้งหมด พร้อมยืนยันว่าที่ดินหากนุ้ยเป็นที่ดินของกรมป่าไม้ แต่กระทั่งถึงปัจจุบันพบว่ายังไม่ได้มีการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง กระทั่งมีการเปิดศึกทะเลาะวิวาทกันเองของเอกชนทั้งสองฝ่ายเป็นครั้งที่ 2 แล้วของเดือนนี้ นอกจากนี้ ทาง ป.ป.ช. ได้มีการลงพื้นที่เพื่อติดตามคดีดังกล่าวด้วย