Stay on this page and when the timer ends, click 'Continue' to proceed.

Continue in 17 seconds

ฝรั่งเบลเยียมยิงเพื่อนร่วมชาติดับก่อนเผานั่งยางอำพราง

ฝรั่งเบลเยียมยิงเพื่อนร่วมชาติดับก่อนเผานั่งยางอำพราง

Source: สำนักข่าวไทย อสมท

บึงกาฬ 26 พ.ค.- ชายชาวเบลเยียมฆ่าเผานั่งยางเพื่อนร่วมชาติ อ้างถูกรีดไถเงินทนไม่ไหวเลยชักปืน .22 ยิงไป 3 นัด ก่อนนำ จยย.ผู้ตายไปทิ้ง แต่ดันไปเจอตำรวจชุดสืบ ภ.4 ที่ไปดักจับยาเสพติดเข้าจับกุม

ตำรวจ สภ.เซกา นำได้รับตัว นายสตีฟ มิลเซล โจเอล (Mr.Steve Rossgnon) อายุ 42 ปี มาสอบสวน หลังจากถูกจับและสารภาพว่า ได้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนขนาด .22 ยิง นายคริสโตปฟ์ Mr.Christophe Hercot อายุ 49 ปี เพื่อนร่วมชาติชาวเบลเยียม เสียชีวิตบริเวณบ้านไม่มีเลขที่ ม.10 ต.เซกาใต้ อ.เซกา จากนั้นนำยางรถยนต์จำนวน 2 เส้นไปเผาทำลายเพื่อเป็นการอำพรางศพ หลังสอบสวน เจ้าหน้าที่ประสานตำรวจพิสูจน์หลักฐานบึงกาฬ เพื่อตรวจสอบที่เกิดเหตุซึ่งห่างจากตัวบ้านพักประมาณ 50 เมตร พบหลุมลึกประมาณ 2 เมตร มีเปลวควันไฟยังติดอยู่ จึงฉีดน้ำดับไฟให้มอดสนิท พบกระดูกมนุษย์ที่ยังไหม้ไม่หมด นำมาเรียงดูว่ารูปร่างจะใกล้เคียงกับตัวจริงของ นายคริสโตปฟ์ หรือไม่

สอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพว่า ผู้ตายมักจะมาขอเงินตัวเองใช้เป็นประจำ วันเกิดเหตุ 24 พ.ค.นายคริสโตปฟ์ ผู้ตายก็ยังตามมาขอเงินอีก ตนจึงบอกไม่ให้ และถูกผู้ตายพูดจาข่มขู่ ว่าจะทำร้ายครอบครัว และมีพฤติกรรมรุนแรง จะเผาบ้านของนายสตีฟ ด้วยความโมโห จึงใช้อาวุธปืนพกสั้นขนาด .22 ยิงเข้าผู้ตาย จำนวน 3 นัด จากนั้นได้ลากศพออกจากบ้านไป 50 เมตร โยนลงหลุมแล้วใช้ยางรถยนต์ 2 เส้นพร้อมเศษไม้อื่นๆ เผาอำพรางศพ

จากนั้นนำรถจักรยานยนต์ของผู้ตายใส่ท้ายรถยนต์กระบะ นำไปทิ้งลงสระน้ำบริเวณริมถนน สาย 212 บ้านโนนสมบูรณ์ ม.9 ต.หนองแวง อ.บ้านแพง จ.นครพนม แต่ถูก ตร.ชุดสืบสวน ที่ไปปฏิบัติภารกิจ ซุ่มจับรถขนยาเสพติดพบพิรุธ จึงเข้าไปสอบถาม แต่เจ้าตัวตกใจ จะขับรถหนี แต่ถูกสกัดจับไว้ได้ นำมาสอบสวนจึงรับสารภาพว่าฆ่าเพื่อนร่วมชาติตาย จึงถูกส่งตัวมาที่ สภ.เซกา ท้องที่เกิดเหตุ

จากนั้นได้นำพนักงานสอบสถานตรวจดูที่เกิดเหตุ และขี้จุดซุกซ่อนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ ตรวจยึดอาวุธปืนพกสั้น 1 กระบอก ซองกระสุน 1 ซอง กระสุน 6 นัด และปลอกกระสุน 3 นัด ไว้เป็นหลักฐาน และแจ้งข้อกล่าวหาเบื้องต้น ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย