Stay on this page and when the timer ends, click 'Continue' to proceed.

Continue in 17 seconds

ผู้ช่วย ผบ.ตร.แถลงค้นบ้านจับผู้ต้องหา 4 ราย ให้การช่วยเหลือ "เสี่ยแป้ง" ยึดปืน-กระสุนเพียบ

ผู้ช่วย ผบ.ตร.แถลงค้นบ้านจับผู้ต้องหา 4 ราย ให้การช่วยเหลือ "เสี่ยแป้ง" ยึดปืน-กระสุนเพียบ

Source: mgronline.com

พัทลุง - ผู้ช่วย ผบ.ตร.แถลงตำรวจบุกค้นบ้าน จับผู้ต้องหา 4 ราย ทั้งในพื้นที่ จ.พัทลุง และ จ.สตูล ระบุให้การช่วยเหลือ "เสี่ยแป้ง" พร้อมยึดอาวุธปืนเอชเค และเครื่องกระสุนเพียบ

วันนี้ (30 พ.ย.) บรรยากาศที่บริเวณโรงพัก สภ.ตะโหมด อ.ตะโหมด จ.พัทลุง พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภาค 9 ตำรวจชุดสืบสวนจังหวัดพัทลุง และเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมหลังจาก "เสี่ยแป้ง นาโหนด" ได้โพสต์คลิปที่ 3 ผ่านทางยูทูบ เพื่อหาเหล่งที่มา และจุดที่มีการใช้สัญญาณอินเตอร์เน็ต

สอดคล้องกับช่วงเช้าวันนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามได้เข้าค้นบ้านบุคคลต้องสงสัย ที่อาจจะเชื่อมโยง และเข้าข่ายช่วยเหลือให้เสี่ยแป้งหลบหนี ภายหลังที่เกิดเหตุปะทะในวันที่ 9 และ 10 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยการเข้าตรวจบ้านบุคคลต้องสงสัยนั้น มีการเข้าตรวจค้นใน 2 พื้นที่บริเวณ อ.ป่าบอน และ อ.ตะโหมด จำนวน 4 หลัง ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้มีการนำตัวในส่วนของบุคคลที่เชื่อมโยงกับข้อมูล และหลักฐานนำตัวมาสอบปากคำที่บริเวณ สภ.ตะโหมด พร้อมกับนำของกลางในส่วนของอาวุธปืนเอชเค กระบอกที่เสี่ยแป้งใช้ยิงปะทะเจ้าหน้าที่บนเทือกเขาได้ 1 กระบอก

ในส่วนของบุคคลต้องสงสัยที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการนำมาสอบปากคำนั้น ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการสอบปากคำทั้ง 4 คน โดยข้อมูลเบื้องต้นนั้นพบว่าทั้ง 4 คน ยังไม่ให้การอะไรที่เป็นประโยชน์ และท่าทีของทั้งหมด ไม่ได้มีท่าทีเคร่งเครียดใดๆ สีหน้าเป็นปกติ ทั้งนี้ ระหว่างที่ 2 ผู้ต้องหาที่ตำรวจอยู่ระหว่างการสอบปากคำ ตอบคำถามนักข่าวเพียงสั้นๆ หลังถามว่าอยากชี้แจงอะไรมั้ย โดยบอกเพียงว่า "ไม่รู้จัก ไม่รู้จัก" พอถามว่าช่วยเสี่ยแป้งหลบหนีหรือไม่ ก็ไม่ตอบคำถาม แล้วเดินเข้าห้องสอบปากคำไปทันที

อย่างไรก็ตาม มีรายงานด้วยว่าบุคคลที่ตำรวจจับกุมมาในครั้งนี้ พบพยานหลักฐานที่ให้การช่วยเหลือเสี่ยแป้งในวันที่ 9 และวันที่ 10 พ.ย.จริง ซึ่งทางพิสูจน์หลักฐานได้นำอาวุธปืนที่ตรวจยึดได้ไปทำการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์แล้ว

ต่อมาในเวลา 14.20 น. ทาง พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช.ภ.9 และคณะทำงานได้เดินทางมายัง สภ.ตะโหมด เพื่อเข้าร่วมประชุม และสอบปากคำเพิ่มเติมกับบุคคลที่คุมตัวมาทั้ง 4 ราย โดยเหตุการณ์นั้นทางตำรวจสอบสวนกลาง ทำการสืบสวนขยายผลภายหลังเหตุการณ์ปะทะ พบมีกลุ่มบุคคลในพื้นที่ จ.พัทลุง คอยให้การช่วยเหลือเสี่ยแป้ง พาหลบหนีลงจากเทือกเขาบรรทัด โดยกลุ่มบุคคลทั้ง 5 ราย มีการแบ่งหน้าที่กันทำเป็นขบวนการ ทางเจ้าฟน้าที่ตำรวจเลยนำกำลังเข้าปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นบ้านเป้าหมาย จำนวน4 จุดในพื้นที่ จ.พัทลุง และ 1 จุดในพื้นที่ จ.สตูล เพื่อตรวจค้นและเชิญตัวบุคคลที่น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องในการช่วยเหลือเสี่ยแป้งหลบหนี

โดยหนึ่งในนั้นได้มีการเข้าค้นบ้านพักของนายสุเชษฐ์ ซึ่งเชื่อว่าเป็นบุคคลที่ได้ช่วยเหลือเสี่ยแป้งหลบหนี และสามารถตรวจยึดอาวุธปืนเล็กยาว HK 33 ขนาด 5.56×45 มม. ห่อด้วยถุงพลาสติกสีดำ จำนวน 1 กระบอก ซองกระสุนปืน (แม็กกาซีน) ที่บรรจุกระสุนเต็มอัตราพร้อมใช้ อีกจำนวน 5 ซอง และกระสุนปืนขนาด 5.56x45 มม. จำนวน 142 นัด ถูกซุกซ่อนฝังดินไว้บริเวณชายป่าในพื้นที่ อ.ป่าบอน จ.พัทลุง

ซึ่งทาง พล.ต.ท.อิทธิพล ผู้ช่วย ผบ.ตร. ได้มีการตั้งโต๊ะแถลงข่าวความคืบหน้าของคดี ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐาน และมีการสืบสวนจนขยายผลทราบว่ามีบุคคลที่เข้าไปช่วยเหลือในพื้นที่ จ.พัทลุง และ จ.สตูล โดยบุคคลทั้งหมดที่ฐานใช้มีข้อมูลจากการสืบสวนทั้งสิ้น 5 ราย โดยเป็นบุคคลในพื้นที่ จ.พัทลุง คือ อ.ป่าบอน และ อ.ตะโหมด และยังมีอีกหนึ่งคนที่อยู่ในพื้นที่ จ.สตูล ทางเจ้าหน้าที่จึงได้มีการรวบรวมข้อมูล และเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายทั้ง 5 จุด ก่อนที่จะคุมตัวผู้ต้องหา จำนวน 4 ราย โดยที่อีก 1 รายยังอยู่ในช่วงของการตามตัว เนื่องจากผู้ต้องหารายดังกล่าวมีการหลบหนี

อีกทั้งทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าค้นบ้านพักของนายสุเชษฐ์ ซึ่งเชื่อว่าเป็นบุคคลที่ได้ช่วยเหลือ และสามารถตรวจยึดอาวุธปืนเล็กยาว HK 33 ขนาด 5.56×45 มม. ห่อด้วยถุงพลาสติกสีดำ จำนวน 1 กระบอก ซองกระสุนปืน (แม็กกาซีน) ที่บรรจุกระสุนเต็มอัตราพร้อมใช้ อีกจำนวน 5 ซอง และกระสุนปืนขนาด 5.56x45 มม. จำนวน 142 นัด ถูกซุกซ่อนฝังดินไว้บริเวณชายป่าในพื้นที่ อ.ป่าบอน จ.พัทลุง ก่อนที่จะมีการเชิญตัวนายสุเชษฐ์ พร้อมบุคคลที่เชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง 4 ราย เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน และจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ประกอบด้วย 1.นายอัซฮัร หมัดสาลี อายุ 30 ปี 2.นายทนงศักดิ์ เพชรตีบ อายุ 50 ปี 3.นายสืบศักดิ์ แสงจันทร์ อายุ 38 ปี 4.นายสุรเชษฐ์ จันเขียว อายุ 39 ปี โดยทั้ง 4 ราย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการตั้งข้อหาร่วมกันช่วยผู้อื่นซึ่งเป็นผู้กระทำผิด หรือเป็นผู้ต้องหาการกระทำความผิดอันมิใช่ความผิดและอุโทษเพื่อไม่ให้ต้องโทษ โดยให้พำนักแก่ผู้นั้นซ่อนเร้นหรือช่วยผู้นั้นด้วยประการใดเพื่อไม่ให้ถูกจับกุม ซึ่งภายหลังสอบปากคำ ทางตำรวจและมีการนำตัวทั้ง 4 ราย ฝากขังที่ศาลจังหวัดพัทลุง

ทั้งนี้ เบื้องต้นทางผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย ยังคงปฏิเสธ และไม่ได้ให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ด้วยพยานหลักฐานหรือสิ่งที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการค้นพบ ค่อนข้างชัดเจนว่ามีการเชื่อมโยงช่วยในการหลบหนีภายหลังที่มีการปะทะ เช่นเดียวกับอีกหนึ่งผู้ต้องหาที่ตอนนี้กำลังหลบหนีอยู่ พบว่าพฤติการณ์ของเจ้าตัวนั้นเป็นคนจัดหายานพาหนะเพื่อช่วยในการหลบหนี หน่วยยานพาหนะที่หลบหนีนั้นจะมีทั้งในส่วนของรถกระบะ และรถจักรยานยนต์

เมื่อถามถึงความเชื่อมโยง ตำรวจมีพยานหลักฐานว่าทำหน้าที่อย่างไร ใช้รถอะไรไปรับไปส่ง แต่ไม่สามารถเปิดเผยพฤติการณ์ได้ เพราะอยู่ในสำนวน ส่วนความสัมพันธ์ของทั้ง 5 คน รู้จักหรือสนิทสนมกับทางเสี่ยแป้งในลักษณะแบบใด ในส่วนนี้ยืนยันว่าเป็นการรู้จักในลักษณะที่เป็นคนในพื้นที่ด้วยกัน และหากมีการช่วยเหลือ หรือมีผลประโยชน์ ซึ่งในอดีต ยืนยันว่าบุคคลทั้งหมดที่มีการเข้าจับกุมวันนี้เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ แต่อาจจะเป็นกลุ่มคนที่มีอิทธิพลในพื้นที่ หรือเป็นที่รู้จักของคนในจังหวัด

เผยจากหลักฐานของทางสถานีตำรวจ ยอมรับว่ากลุ่มที่ให้ความช่วยเหลือในส่วนที่มีการจับกุมนั้น น่าจะมีการวางแผน และเตรียมการไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งทุกอย่างทำเป็นขบวนการ และขั้นตอน ภายหลังที่มีการปะทะ ส่วนจะมีการเชื่อมโยงกับกลุ่มบุคคลที่ช่วยหลบหนีในช่วงที่ออกจากโรงพยาบาลหรือไม่นั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังอยู่ในช่วงขยายผล ส่วนรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องช่วงเวลาที่หลบหนีลงจากเขา รวมไปถึงบุคคลที่กำลังตามตัวอยู่ได้มีการหลบหนีจากทางเสี่ยแป้งหรือไม่ ประเด็นดังกล่าวยังอยู่ในช่วงของการขยายผลเพื่อติดตาม

ขณะที่ทาง พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ ยืนยันว่า ชุดปฏิบัติการในส่วนของการสืบสวนสอบสวนยังคงทำงาน และลงพื้นที่เพื่อหาเบาะแสบุคคลที่เกี่ยวข้อง และตามตัวในส่วนของเสี่ยแป้ง ซึ่งกระบวนการทำงานนั้นได้มีการไล่เรียงไทม์ไลน์ และเวลาตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุและหลังเกิดเหตุ ย้ำว่าตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการแจ้งข้อหาบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด 12 ราย ตั้งแต่ในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช และ จ.พัทลุง โดยเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ จำนวน 3 ราย เพราะมีการยึดของกลางไม่ว่าจะเป็นในส่วนของอาวุธ และยานพาหนะที่เกี่ยวข้อง

ยืนยันว่าเหตุการณ์ที่มีการปะทะเป็นการใช้กำลัง และยุทธวิธีตามขั้นตอน และเป็นการตอบโต้ตามขบวนการ ยืนยันว่าทางเจ้าหน้าที่เองไม่ได้มีเจตนาที่จะวิสามัญตามที่เป็นข่าว การดำเนินคดีจะต้องทำควบคู่กับความเป็นจริง ไม่ได้เน้นความรู้สึก

อย่างไรก็ตาม ภายหลังที่มีการสอบสวนเเล้วเสร็จ ใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย นำตัวไปฟ้องศาลจังหวัดพัทลุง โดยในส่วนของผู้ต้องหาบุคคลแรก ทางทีมข่าวได้มีการพยามสอบถามว่ารู้จัก หรือช่วยเสี่ยแป้งในการหลบหนีหรือไม่ ถามเจ้าตัวเองสายหน้า พร้อมบอกว่าไม่รู้จัก และไม่ได้ช่วยในการหลบหนี ยืนยันปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

เช่นเดียวกับอีกหนึ่งผู้ต้องหา ทีมข่าวได้พยามสอบถามว่าทำไมถึงไปพกอาวุธปืน และหลักฐานอยู่ภายในบ้านของเจ้าตัว ซึ่งทางผู้ต้องหาเองสายหน้า และปฏิเสธว่าไม่ทราบ ยืนยันไม่ได้เกี่ยวข้องหรือรู้เห็นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เช่นเดียวกับชายชุดดำ อีกหนึ่งผู้ต้องหาที่ส่ายหน้า และไม่ให้ข้อมูล ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการคุมตัวทั้งหมดขึ้นรถและนำไปยังศาล โดยทุกคนไม่ได้มีสีหน้าที่เคร่งเครียด หรือกังวลจากที่สังเกต คล้ายว่าทั้งหมดเตรียมหลักฐานพร้อมที่จะยื่นประกันตัวในชั้นศาล เช่นเดียวกับทางญาติของทางผู้ต้องหาที่ได้เดินทางมายังบริเวณสถานีตำรวจ แต่กลับไม่ให้ข้อมูลหรือรายละเอียด ตลอดจนการสัมภาษณ์กับทางทีมข่าวแต่อย่างใด